สมัยนี้เวลาออกไปทานข้าวนอกบ้าน ใครๆก็ต้องถ่ายรูปอัพลงโซเชียลกันทั้งนั้น บางคนถ่ายรูปอาหารน่ากินมากกก จนเราต้องตามไปเช็คอินบ้าง แต่เอ.. ทำไมเราถ่ายแล้วไม่เห็นน่ากินแบบเค้าเลยนะ สงสัยใช่มั้ยล่าาา? มาจ๊ะะะ วันนี้เรามีแอพฟรีที่ดีมากกกกก มากระซิบบอก หลายๆคนอาจจะรู้แล้ว แต่หลายคนก็ยังไม่รู้ แอพนี้มีชื่อว่า foodie เป็นแอพที่ทุกคนควรมีติดเครื่องไว้เป็นอย่างมาก             แอพนี้เค้ามีสโลแกนว่า “ ใช้ชีวิตตามรสชาติที่คุณชอบ “ Foodie คือแอพเพื่อนแท้สำหรับนักชิมรุ่นใหม่ในยุคโซเชียลที่จะช่วยเพิ่มรสชาติความทรงจำแสนอร่อยให้กับอาหารมื้อพิเศษ          การใช้งานก็แสนจะง่ายดาย เข้าไปก็จะเจอโหมดพร้อมถ่ายเลยค่ะ เราสามารถเลือกฟีลเตอร์ตรงนี้ได้เลย หรือจะถ่ายแบบปกติก่อน แล้วค่อยมาแต่งทีหลัง หรือเลือกจากรูปในคลังภาพของเราก็ได้จ้าาา และสามารถยังเปิด-ปิดแฟลช ตั้งค่าเบลอ ตัวจับเวลาสำหรับจับภาพ เส้นกริด เพื่อเพิ่มความสะดวกในการถ่ายภาพให้คุณอีกด้วย               เอาละค่ะ มาถึงขั้นตอนสำคัญ มาเริ่มแต่งภาพอาหารของเราให้ดูน่ากินสุดๆกัน พอเลือกภาพได้แล้วก็กดตรงไม้วิเศษเลยจ้าาา มีฟีลเตอร์ให้เลือกเยอะมาก ชื่อแต่ละฟีลเตอร์ก็น่ารักกรุบกริบ โพซิตาโน ซาบซ่า ปิคนิค หวาน สดใหม่ บาร์บีคิว โรแมนติก กรอบ และเคี้ยวหนึบ           ซึ่งภายในแอพจะมีไกด์ให้เราบ้างแล้วว่าแต่ละฟีลเตอร์ใช้กับรูปอาหารประเภทไหน เช่นรูปตัวอย่างของเราคือ สปาเก็ตตี้ เราก็ไปเลยค่ะไปเลือกฟีลเตอร์ที่เป็นรูปเส้นๆ ซึ่งในส่วนของรูปเส้นก็มีให้ไปอีก 3 แบบ เราก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ ถ้ารู้สึกว่าสีแรงเกินอยากซอฟท์อีกหน่อย ก็สามารถปรับตรง opacity ของแต่ละฟีลเตอร์ได้เลยค่าา   อาหารคาวไปแล้วก็ต้องมีอาหารหวานเน๊อะ ยิ่งปรับยิ่งหวาน โอ้ยยยย     โทนเข้มๆก็มีนะจ๊ะแอพนี้ เหมาะกับแต่งรูปกาแฟเป็นอย่างมากก            เห็นด้วยแล้วใช่มั้ยล่าาา ว่าแอพดีมากจริงๆ แต่ใช่ว่าแอพนี้จะใช้แต่งรูปอาหารเพียงอย่างเดียวนะคะ blogger หลายคนยกให้แอพนี้เป็นแอพประจำเครื่อง ที่พวกเค้าเอาไว้แต่งรูปลงไอจี แต่งแล้วแบ๊วเป็นสาวเกาหลีเลยทีเดียว และยังสามารถคุมโทนได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่า   ดาวน์โหลดแอพ Foodie ตรงนี้เลยจ้า        

          เชื่อว่าทุกคนต้องได้ใช้รถโดยสารประจำทางกันอยู่แล้ว ปัญหาที่พบส่วนมากก็เป็นเรื่องของเวลารถที่ไม่แน่นอน เนื่องด้วยผู้โดยสารก็ต้องรีบไปทำงาน จะให้ยืนรอรถแบบไร้จุดหมายก็ดูท่าว่าจะไปทำงานไม่ทัน วันนี้ค่ะเราเลยอยากแนะนำแอพพลิเคชั่นที่จะช่วยให้เราทราบพิกัดของรถโดยสารประจำทางที่เราจะขึ้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง กันค่ะ             กรมการขนส่งทางบกได้นำระบบ GPS มาใช้ในการบริหารและติดตามการเดินรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก ตามโครงการ “มั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS” โดยเชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดเข้ากับศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS แบบเรียลไทม์ และเปิดให้ประชาชนและผู้ประกอบการขนส่งเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานขับรถแบบเรียลไทม์ได้เช่นกัน โดยผ่านแอพพลิเคชั่น DLT GPS     การทำงานของแอพพลิเคชั่น  DLT GPS 1) ค้นหาตำแหน่งรถโดยสาร ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ว่า ณ ช่วงเวลานั้น อยู่ ณ ตำแหน่งใด คือผู้ใช้บริการแอพสามารถค้นหาตำแหน่งของรถแบบเรียลไทม์เลยค่ะว่าตอนนี้รถอยู่ตรงไหน โดยการระบุหมายเลขทะเบียนรถ ระบบก็จะแสดงตำแหน่งพิกัดของรถ ความเร็วที่ใช้ และรายละเอียดของพนักงานขับรถ   2) ร้องเรียน รถโดยสารที่มีการกระทำผิดดังนี้ ขับรถเร็ว ออกนอกเส้นทาง บรรทุกปู้โดยสารเกินจำนวนที่กำหนด เก็บค่าโดยสารเกินอัตรา ปฏิเสธผู้โดยสาร  มารยาทไม่เรียบร้อย/พูดจาไม่สุภาพ ขับรถหวาดเสียว ไม่หยุดรถตามจุดจอด และในส่วนของเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้อง/ไม่ครบถ้วน แต่ถ้าไม่มีตามนี้เราสามารถเลือกหัวข้ออื่นๆ เพื่อร้องเรียนเรื่องอื่นนอกจากนี้ได้ค่ะ 3) แจ้งเหตุ  ทางแอพมีในส่วนของการแจ้งเหตุให้ผู้ใช้งานด้วย เมื่อเราเกิดรถเสีย ยางแตก หรือเจอเหตุการณ์รถชนกัน รถคว่ำ หรืออื่นๆ ได้ค่ะ ถ้าบังเอิญเราไปประสบเหตุเข้า 4) ค้นหาสถานีขนส่งผู้โดยสารในบริเวณใกล้เคียงที่เราอยู่ ซึ่งสามารถใช้ค้นหาสถานีขนส่งได้ทั่วประเทศเลยค่ะ           แอพพลิเคชั่น DLT GPS มีให้ดาวน์โหลดทั้งในระบบ IOS และระบบ Android  ไปลองใช้กันนะคะ เราเชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนการเดินทางได้มากขึ้นแน่นอนค่ะ         

คนเราสมัยนี้ให้ค่าของวัตถุกันมาก ถือเป็นปัญหาสำคัญที่เห็นได้อย่างชัดเจนในสังคมปัจจุบัน เราจึงมีแอพพลิเคชั่นที่จะช่วยปรับวิธีคิดของคุณให้ใช้จ่ายเงินอย่างมีเหตุผลมากขึ้น สามารถสร้างวินัยทางการเงินให้คุณได้แน่นอนค่ะ           แอพพลิเคชั่น คิดดี มีตังค์ เป็นการรวมตัวกันขององค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชน ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจปลูกฝังค่านิยมที่ดีให้แก่ เยาวชน คนรุ่นใหม่ ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นเนื้อหาสำคัญในการขับเคลื่อน เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้กับสังคมไทย                 แอพนี้จะเป็นเครื่องมือที่สะดวกในการช่วยเช็คเป้าหมายต่าง ๆ ของชีวิต และความพร้อมทางด้านการบริหารการเงินส่วนบุคคล สร้างการเรียนรู้เรื่องการหารายได้เสริม การออมเงินหรือการลงทุน และการใช้เงินอย่างมีความคิดที่เหมาะสม พร้อมปฏิทินเคล็ดลับการออม 365 วัน ด้วยความคาดหวังที่จะมีส่วนช่วยลดปัญหาการเงินส่วนบุคคลได้ในอนาคต มาร่วมสร้างวินัยทางการเงิน และไม่สร้างหนี้เกินตัวจนทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมากันค่ะ               มาในส่วนของเมนูแรกกันก่อนค่ะ.. เมนูตั้งฝัน ออกแบบให้สอดคล้องกับความฝันของคนยุคปัจจุบัน เช่นคำถามยอดฮิต อีกกี่ปีนะ…ฉันถึงจะมีเงินล้าน? รายได้เท่านี้ ฉันจะมีโอกาสครอบครองบ้านในฝันมั้ย? ต้องเตรียมเงินเท่าไหร่ เพื่อที่จะพร้อมเตรียมตัวเกษียณ  พอเรากรอกรายละเอียดไปแอพก็จะคำนวณออกมาว่าเราต้องใช้เวลากี่ปี กี่เดือน หรือต้องเก็บเดือนละเท่าไหร่เพื่อให้ไปถึงฝันนั้น เริ่มตั้งแต่ออมเงิน 50,000 บาท ไปจนถึง 10,000,000 บาทเลยทีเดียว และยังมีอีกหลายเป้าหมายที่เราสามารถตั้งความฝันแล้วไปให้ถึงฝันนั้นได้ ลองมาดูตัวอย่างการตั้งฝันกันค่ะ               ต่อไปเป็นเมนู หา ออม ใช้ เมนูจะรวบรวมบทความดีๆเกี่ยวกับการหาเงินเพิ่ม การออมเงิน และการใช้เงินอย่างถูกวิธี  เพื่อจะทำให้เรามีแนวทางดำเนินชีวิตด้านการเงินให้ดีขึ้นค่ะ                 ภายในแอพนี้ครอบคลุมเรื่องการบันทึกรายรับรายจ่ายด้วย การบันทึกรายรับรายจ่ายถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการวางแผนการเงินส่วนบุคคลที่จะสามารถทำให้เราไปถึงความฝันของเราได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ                 และเมนูสุดท้ายก็คือ ปฏิทินเงินออม  เป็นเทคนิคดีๆของทางแอพเลยค่ะ แอพจะไกด์เราให้เราทำนู่นนี่นั่นตามปฏิทิน คุณลองหากระปุกออมสินดีๆมาไว้สักใบ พอหาเงินเพิ่มจากการทำตามแอพแนะนำได้ ก็เอาเงินมาหยอดกระปุกไว้  ลองตั้งใจทำไปเรื่อยๆ สิ้นเดือนมาคุณอาจจะมีเงินเพิ่มในกระเป๋าหลายพันเลยก็เป็นได้นะคะ สู้ๆค่ะ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งในปัจจุบันและหลังเกษียณ ของตัวคุณเองและครอบครัว   Download ได้ทั้ง IOS, Andriod เลยจ้าาา            

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ภาษาต่างประเทศสำคัญกับการเรียนการทำงานมากจริงๆในยุคปัจจุบัน ถ้าอยากมีโอกาสเติบโตในด้านการเรียน ด้านการทำงาน หรือการทำธุรกิจ แค่รู้สองภาษาไม่พอแล้วค่ะตอนนี้ อยากมีโอกาสเพิ่มมากขึ้นต้องมีภาษาที่ 3 4 5 ยิ่งรู้หลายภาษา โอกาสดีๆก็มีเยอะขึ้นตามไปด้วย ใครที่ยังไม่ได้ภาษาที่ 2 เลยก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ คนเราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ วันนี้เราเลยอยากแนะนำแอพพลิเคชั่นไว้เรียนคำศัพท์ภาษาต่างประเทศ ที่มีถึง 31 ภาษาในแอพเดียว เปิดโอกาสในการเรียนรู้ให้ตัวเองให้เต็มที่สุดๆกันไปเลยค่า          แอพพลิเคชั่นนี้มีชื่อว่า Drops ซึ่งมีคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้ Drops เป็นอันดับหนึ่งในใจคุณคือ         - มี wordlists แยกเป็นประเภทต่างๆ และมีคำศัพท์มากกว่า 2600 คำ ครอบคลุม 90% ของการใช้คำศัพท์ในชีวิตประจำวัน        - ทุกคำศัพท์ มีภาพประกอบที่น่ารัก เพราะอย่างที่รู้กันว่าภาพประกอบ สามารถสร้างการจดจำได้มากกว่าคำแปล         - เสียงประกอบชัดเจน ที่พากษ์โดยนักแสดงเสียงดีมืออาชีพ คุณสามารถออกเสียงตามได้อย่างถูกต้อง         - มีการเก็บสถิติของผู้ใช้  หลังจากการเรียนแต่ละบทเรียน คุณจะเห็นความคืบหน้าทุกวันของตัวเอง พร้อมกับรายงานผลคำศัพท์ทั้งหมดที่คุณศึกษาไป         Drops มีเทคนิคพิเศษ คือให้คุณเรียนเพียง 5 นาทีต่อวันเท่านั้น อ่านไม่ผิดค่ะ 5 นาทีต่อวันเท่านั้น เพราะทางผู้พัฒนาต้องการให้เรียนรู้คำศัพท์เป็นการจดจำได้ดีแบบยั่งยืนมากกว่าการอัดคำศัพท์เข้าไปเยอะๆ ทีเดียว เชื่อว่าแอพนี้จะทำให้คุณจดจำคำศัพท์ได้ไปตลอดชีวิตของคุณเลยก็ว่าได้ค่ะ        ด้วยการเรียนรู้คำศัพท์ในแบบของ Drops จะทำให้คุณตัดคำว่า “น่าเบื่อ” ออกจากสาระบบการเรียนคำศัพท์ทันที เพราะคุณจะรู้สึกเหมือนการเล่นเกมมากกว่าค่ะ แล้วในการเริ่มต้นคำศัพท์ใหม่ๆ คำศัพท์ที่คุณได้เรียนรู้ไปแล้วก็ยังคอยมาวนเวียนให้คุณเจอแล้วเจออีกในรูปแบบเกมต่างๆ ซี่งจะทำให้คุณไม่ลืมคำศัพท์ที่เคยเรียนไปแล้วแน่นอน และนี่ถือเป็นเทคนิคที่ชาญฉลาดมากๆเลยค่ะ ที่เราต้องเรียนรู้คำศัพท์ไว้เยอะๆ เพราะถ้าเรารู้คำศัพท์เยอะ ก็จะสามารถพูดภาษาต่างประเทศได้ดีขึ้น  บางทีเราอาจจะยังพูดเป็นประโยคไม่ได้แค่พูดคำศัพท์โดดๆขึ้นมาคำเดียว คนต่างชาติเค้าก็เข้าใจแล้วค่ะว่าเราต้องการอะไร ผู้เขียนใช้ประจำค่ะเวลาต้องคุยกับเพื่อนต่างชาติ พอคุณกล้าคุยครั้งแรกถึงแม่จะไม่เป็นประโยค แต่ผลต่อมาหลังจากนั้นคุณจะมีความมั่นใจลึกๆ แล้วสนุกกับการเรียนภาษามากขึ้น  เมื่อก่อนถามคำตอบคำคราวนี้แหละค่ะ คุณจะเม้าส์กับเพื่อนต่างชาติได้แบบเพื่อนคนไทยเลยค่ะ เห็นมั้ยคะว่าการรู้คำศัพท์เยอะๆสำคัญฉไน :) อย่ารอช้า ไปโหลดมาใช้กันดีกว่าค่าาาาาาาา   Download ตรงนี้เลยจ้า    

ใครๆ ก็ชอบอ่านเนื้อหาดีๆ มีประโยชน์มากกว่าอ่านเนื้อหาที่มีแต่ข้อความโฆษณาขายของ การจะทำให้ผู้บริโภคประทับใจ เราอาจใช้วิธีเขียนบทความเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้บริโภคกำลังให้ความสนใจอยู่ ให้เราดูว่าเนื้อหาอะไรกำลังเป็นที่นิยมในขณะนั้น วิธีนี้ถือเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ได้ผลดีมาก และถ้าเราสามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอ ผู้บริโภคก็จะเกิดความประทับใจในตัวเรา แต่อย่าลืมว่าเนื้อหาที่เราเลือกมานั้นจะต้องสื่อไปถึง Brand ของเราได้ด้วย ต้องยอมรับว่าโลกออนไลน์ทุกวันนี้มีบทบาทต่อผู้คนเป็นอย่างมาก ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อนคำว่า “ออนไลน์” อาจจะจำกัดอยู่เพียงการเสพสื่อบันเทิงเท่านั้น แต่ทุกวันนี้ “งานเขียนคอนเท็นท์” จึงมีความสำคัญและเติบโตตามไปอย่างรวดเร็ว “งานเขียนคอนเท็นท์” ในที่นี้สามารถเป็นเนื้อหาในสื่อใดก็ได้ ตัวอย่างของสื่อที่ได้รับความนิยมมาก ก็คือ บทความ = ข้อเขียนในหน้าเว็บไซต์ต่าง ๆ อาจจะเป็นโพส Facebook หรือเนื้อหายาว ๆ ในเว็บไซต์ก็ได้ กราฟฟิก = ก่อนหน้านี้ก็มีเทรนด์การทำ Infographic สวย ๆ ที่ย่อข้อเขียนยาว ๆ ให้อ่านง่ายขึ้นด้วยรูปเข้าใจง่าย โพสลงใน Facebook แล้วได้รับความนิยมมาก ถึงขนาดมีบริษัทที่เปิดขึ้นมารับทำ Infographic โดยเฉพาะเลย วีดิโอ = การทำวีดิโอได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมี Youtube.com ที่แบรนด์สามารถสร้าง Video Channel ของตัวเองได้ฟรี แถมมีฐานผู้ใช้มหาศาล ซึ่งถ้าติดตาม Cannes Award จะเห็นวีดิโอได้รางวัลหลายตัวเลยที่สร้างขึ้นมาทำ Content Marketing บริการของเรา !! วางแผนตาราง content วิเคาระห์กลุ่มเป้าหมาย ทางทีมงานจะวิเคราะห์ และออกแบบ Content ให้ตรงกับลักษณะของธุรกิจ/บริการของท่าน ในลักษณะ บทความ/ รูปภาพ/Infographic รวมถึงข้อมูลข่าวสาร หรือ บทความที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยสร้าง Brand สร้างการรับรู้ ช่วยสนับสนุนการขายสินค้า/บริการ  อัตราค่าบริการ    

Banner สินค้าและบริการของคุณมีข้อดี จุดเด่นอะไรบ้าง หรือช่วงนี้คุณมีโปรโมชั่นอะไร การจะอธิบายให้ผู้คนในยุคดิจิตอลที่มองภาพแต่ละภาพแค่ไม่กี่วินาทีนั้นเป็นเรื่องยาก ดังนั้นการออกแบบแบนเนอร์ (Banner) จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะการสื่อสารด้วยภาพสามารถดึงดูดความสนใจได้มากกว่าสิ่งอื่น และสามารถสื่อสารให้ผู้บริการโภคเข้าใจสินค้าและแบรนด์ของคุณได้ง่ายขึ้น หลักการออกแบบแบนเนอร์ให้สะดุดตา ใส่แบรนด์ลงในแบนเนอร์ นี่คือจุดสำคัญที่คุณจะได้บอกผู้คนทั้งโลกว่า แบรนด์ของคุณคืออะไร ต้องมีจุดเด่น สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างแรกคือแบนเนอร์ต้องมีจุดเด่น ที่สามารถดึงความสนใจจากคนที่เห็นให้หยุดมองหยุดอ่านให้ได้ จัดวางใจความที่สําคัญที่สุดไว้ตรงจุดที่สะดุดุตาเพื่อบอกให้รู้ได้ในทันทีว่าสิ่งที่คุณต้องการสื่อคืออะไร อย่าลืมที่จะให้ความสำคัญกับฟอนต์ การที่คุณจะผสมหลายๆ ฟอนต์ลงในแบนเนอร์อันเดียวนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ให้เลือกใช้ฟอนต์เดียวหรืออย่างมากสองฟอนต์ก็เพียงพอ สร้างความแตกต่าง ลองเติมไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ให้แบนเนอร์คุณไม่ซ้ำซาก น่าเบื่อ อาจจะเป็นธีมใหม่ที่เกาะกระแสเรื่องราวที่ได้รับความสนใจ แต่! ต้องไม่ให้ธีมนั้นกลบสินค้าหรือสิ่งที่คุณต้องการสื่อด้วย LOGO บริการออกแบบโลโก้ (Logo) เพื่อช่วยให้แบรนด์ของคุณโดดเด่น มีเอกลัษณ์ จดจำง่าย และเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย ออกแบบโลโก้ตามหลักฮวงจุ้ย ฯลฯ โลโก้เป็นตัวสะท้อนความเป็นตัวตนของแบรนด์และธุรกิจ ดังนั้นสำหรับเจ้าของแบรนด์และธุรกิจต่างๆ แล้วคุณจึงควรให้ความสำคัญกับโลโก้ให้มากขึ้น ซึ่งแนวทางการออกแบบโลโก้ที่ดีมีดังนี้ โลโก้ควรมี Concept หรือความหมายที่สื่อถึงสินค้าหรือบริการของเราอย่างชัดเจน โลโก้ควรออกแบบโดยอาศัยความเรียบง่ายเป็นหลัก เพราะง่ายต่อการจดจำ โลโก้ควรเลือกใช้สีไม่เกิน 2-3 สี หากใช้สีมากกว่านี้จะเริ่มทำให้สับสนและจดจำยาก สำรวจตลาดออกแบบโลโก้ เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งและง่ายต่อการจดจำแบรนด์ คำนึงถึงการใช้งาน เช่น พิมพ์ลงป้ายหน้าร้าน หรือนำไปใช้งานบนเว็บไซต์มีความชัดเจนหรือไม่ และคำนึงถึงหากโลโก้นั้นต้องพิมพ์เป็นภาพขาวดำ ยังจะมองออกชัดเจนอยู่หรือไม่  

บริการออกแบบ พัฒนาเว็บไซต์และแอพพลิเคชันบนมือถือ แท็บเล็ตที่สามารถใช้งานได้ทั้งระบบปฏิบัติการ Andriod และ iOS เราออกแบบ พัฒนาเว็บไซต์และแอพพลิเคชันหลากหลายรูปแบบ โดยคำนึงถึงความสะดวกสบายในการใช้งานของผู้ใช้ ความสวยงาม และการตีความหมายให้เข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจถึงจุดประสงค์ และสิ่งที่ลูกค้าต้องการจะสื่อออกมาได้ คุณสมบัติ "แอปพลิเคชัน" แอพพลิเคชันสามารถใช้งานบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android และยังรองรับการใช้งานหลากหลาย ขนาดของหน้าจอมือถือ และแท๊บเล็ต ดีไซน์ที่เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจ ซึ่งบอกถึงเอกลักษณ์ จะทำให้แอพพลิเคชันมีความน่าสนใจ จดจำง่าย และเรายังคำนึง ถึงการจัดวางที่เหมาะสมเพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจง่าย และสะดวกสบาย มีระบบฐานข้อมูลของแอพพลิเคชัน ที่จะทำให้คุณจัดการแอพพลิเคชันได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เพิ่มคุณภาพบริการให้ธุรกิจคุณ โมบายล์แอพ เครื่องมือการตลาดดิจิทัลรูปแบบใหม่ ที่จะช่วยเพิ่มคุณภาพบริการและความสะดวกสบายให้ธุรกิจคุณด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ เช่น ฟังก์ชั่น Chat, ฟังก์ชั่น Form แบบฟอร์มอเนกประสงค์สำหรับธุรกิจ, ฟังก์ชั่น Download ให้ลูกค้าสามารถดูเอกสาร PDF ที่คุณอัปโหลดไว้ผ่านโมบายล์แอพ หรือระบบ Booking จองบริการบนโมบายล์แอพ เป็นต้น  

           นับแคลๆๆๆๆ หันไปทางไหนก็มีแต่คนบอกว่าถ้าอยากจะลดน้ำหนักต้องนับแคลให้เป็น โอ้ยยย!! แล้วเค้านับกันยังไงล่ะเนี่ยยยย นับไม่เป็นแล้วจะลดไม่ได้งี้หรอ ใครเกิดปัญหานี้ยกมือขึ้น ฮ่าๆๆๆ            เราคนแรกเลยจ้า เป็นมาตลอดตั้งแต่เริ่มอยากลดน้ำหนัก ซึ่งไม่เคยได้ผลเลยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ลดมาหลายครั้ง ทานยาลดน้ำหนักมานับครั้งไม่ถ้วน  และที่ไม่สำเร็จก็เพราะลดแบบผิดวิธีมาตลอด พอเราตั้งใจแล้วว่าครั้งนี้จะเป็นการลดน้ำหนักครั้งสุดท้ายของชีวิต เราจึงใช้เวลาศึกษาค้นคว้าเรื่องการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีและยั่งยืน ก็คืออาหาร 80% และการออกกำลังกาย 20% สรุปสั้นๆก็คือเราต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องอาหารเป็นหลักค่ะ ส่วนการออกกำลังกายก็เพื่อเป็นการเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกาย เพื่อช่วยให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้น และร่างกายเฟิร์มกระชับถึงแม้น้ำหนักจะลดไปเยอะแค่ไหนก็ตาม            แต่เราก็ยังติดปัญหาอยู่ดีเรื่องการควบคุมอาหาร คือนิสัยการกินของที่บ้านเราคือติดของทอดของมันกันมาก เราไม่รู้ว่าอาหารแต่ละอย่างแคลมากน้อยแค่ไหน ต้องนับอย่างไร เราจึงเสิร์ซหาตัวช่วยที่จะทำให้การนับแคลของเราง่ายและสะดวกมากขึ้น อย่างเช่นแอพพลิเคชั่นที่เราจะแนะนำวันนี้ ซึ่งได้ผลมากๆจริงนะคะ เพราะเราสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 4 กิโลกรัม หลังจากใช้แอพมา 1 เดือน              แคลอรี่ ไดอารี่ แอพเพื่อสุขภาพและการไดเอท ช่วยคำนวนปริมาณแคลอรี่ที่ควรบริโภคต่อวันตามเป้าหมายน้ำหนักที่ต้องการ นับการเดินและการเผาผลาญจากการเดิน บันทึกปริมาณแคลอรี่ที่บริโภคในแต่ละวันได้จากรายการอาหารมากมาย มาพร้อมตัวการ์ตูนน่ารัก เพื่อช่วยเพิ่มรอยยิ้มและความสนุกสนานให้การไดเอทของคุณ            แคลอรี่ ไดอารี่เชื่อมต่อกับแอพสุขภาพด้วย HealthKit ทำให้การบันทึกและอัพเดทน้ำหนักเป็นไปได้ง่ายขึ้น รวมทั้งเชื่อมต่อกับข้อมูลการนับก้าวเดินในแต่ละวันผ่านทาง HealthKit และนำมาคำนวนในแอพแคลอรี่ ไดอารี่ ทำให้คุณสามารถทราบได้ว่าร่างกายได้เผาผลาญพลังงานจากการเดินในแต่ละวันไปเท่าไหร่อีกด้วย           ก่อนอื่นต้องเข้าไปบันทึกข้อมูลน้ำหนักส่วนสูง น้ำหนักเป้าหมาย ระยะเวลา (หมายถึงระยะที่เราอยากให้น้ำหนักถึงเป้าหมาย) กันก่อนค่ะ แล้วแอพจะคำนวณระยะเวลาในการลดออกมาว่าต้องใช้เวลากี่วันๆ คำนวณค่า BMI ค่า BMR มาให้ด้วย ซึ่งค่า BMR นี่แหละค่ะที่เป็นตัวกำหนดจำนวนแคลอรี่อาหารของเราในแต่ละวัน           หลังจากนั้นก็เริ่มใช้งานแอพได้เลยค่ะ เรามักจะบันทึกตอนก่อนนอนค่ะ ทำเป็นกิจวัตรไปเลย เริ่มจากการบันทึกอาหารเช้า อาหารว่าง อาหารกลางวัน อาหารเย็น และการออกกำลังกายด้วยนะคะ           แล้วเลื่อนลงมาดูตารางข้างล่างค่ะ แอพจะพิจารณาออกมาเป็นกราฟ ซึ่งกราฟแต่ละสีแสดงระดับของการกินอาหารของเรานั่นเองค่ะ สีแดงหมายถึงวันนั้นกินเกินแคลที่กำหนด สีเหลืองหมายถึงวันนั้นกินเกือบเกินที่กำหนด และสีเขียวหมายถึงการกินที่ปกติ และยังมีตารางอัพเดทน้ำหนักของตัวคุณเองเพื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนค่ะ   และนอกจากนั้นในแอพยังรวบรวมบทความดีๆจากเว็บไซด์ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้แอพไว้มากมายเลยค่ะ             การจะทำอะไรแล้วประสบความสำเร็จได้นั้นต้องใช้เวลา การลดน้ำหนักที่ได้ผลแบบยั่งยืนเช่นกัน ต้องใช้เวลาและความอดทนอย่างมาก แต่ถ้าเรามีความตั้งใจ ลดแบบสบายๆ ไม่ต้องซีเรียสมาก แค่มีวินัยในการบันทึกการกินและการออกกำลังกายในแอพ เราจะรู้ตัวว่าวันๆนึงเรากินอะไรเข้าไปเยอะมาก ซึ่งถ้าเราลดแบบไม่มีการตั้งเป้าหมายและการควบคุมเลย มันยากมากที่จะประสบความสำเร็จในการลด เราขอเอาใจช่วยคนที่กำลังลดน้ำหนักเหมือนเรา มาสนุกไปกับการดูแลสุขภาพและการไดเอทที่ได้ผลไปพร้อมๆกันนะคะ!   Download ความผอมกันตรงนี้เลยจ้า และมีให้โหลดแค่ใน Apple Store เท่านั้น    

มีเพื่อนเราหล้ายยยยยคนมากค่ะ ที่ใส่ ย ยักษ์หลายตัวเพราะหลายคนมากจริงๆค่ะ ที่ยังโสดดดด ยังไม่มีแฟน ทั้งที่อายุปูนนี้แล้ว ถ้าเป็นสมัยก่อนคงมีลูกสามไปแล้ว ถ้าพูดเป็นเรื่องกรรมเวรเราอาจจะไปสาบงสาบานกับใครไว้ แล้วตอนนี้เค้ายังไม่เกิด -.-* ฟังแบบนี้แล้วเศร้าเน๊อะ แต่อย่าเพิ่งยอมแพ้ค่ะ ถ้าเราเปลี่ยนมุมมองเป็นหลักทางวิทยาศาสตร์ง่ายๆ  คือบางทีคุณอาจจะใช้ชีวิตเป็น Routine จนเกินไป ทำงานกลับบ้านๆๆ คือเราก็ไม่เจอใคร และใครก็ไม่เคยเจอช้างเผือกในป่าใหญ่เช่นเรา ฮ่าๆๆ อย่างไรก็ตามที่เราแนะนำวันนี้ไม่ใช่เพื่อแนะนำหรือส่งเสริมให้คนทำผิดศีลธรรมนะคะ แต่ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ตัวคุณเอง เผื่อว่าคุณอาจจะได้เพื่อนใหม่ สร้างคอนเนคชั่น หรือได้เจอว่าที่คนรักในอนาคตก็ได้นะคะ  ซึ่งมีหลายคู่รักที่เจอกันในแอพเหล่านี้ค่ะ    1. Tinder           แอพจะให้เรากรอกข้อมูลส่วนตัวลงไปก่อนค่ะ มีอะไรใส่ไปให้หมด เพราะว่าจะทำให้คนที่จะเข้ามาคุยรู้ว่า เค้าจะถูกใจหรือตรงเสปคคุณหรือเปล่า ถือเป็นด่านที่หนึ่งเลยก็ว่าได้ค่ะ           หลังจากนั้นจะถึงเวลา shopping time แอพจะคัดคนมาให้เราเลือกตามที่เราตั้งเสปคไว้ ในรูปแบบแบบ Popup Card ซึ่งน่าจะเป็นเวลาที่สนุกที่สุดแล้วค่ะ ชอบก็เก็ยไว้ ไม่ชอบปัดทิ้ง เหมือนสวยเลือกได้ประมาณนั้น ฮ่าๆๆๆ           - อยากดูรูปก่อนหน้า แตะรูปฝั่งซ้าย           - อยากดูรูปถัดไป แตะดูรูปฝั่งขวา                    - ถ้าถูกใจ ให้ปัดขวา           - ถ้าไม่ถูกใจ หรือยังไม่ใช่ ให้ปัดซ้าย           แต่การปัดขวาก็มีขีดจำกัดนะคะ ไม่ใช่ว่าถ้าปัดขวาแล้วจะได้คุยกับคนนี้แน่นอน  เพราะเราก็ต้องถูกเค้าปัดขวาเช่นกัน ถึงจะเรียกว่าเป็นการ Match อารมณ์เหมือนเวลาคนจะคบกันจริงๆนั่นแหละค่ะ ต้องถูกใจกันทั้งสองฝ่ายก่อน ความสัมพันธ์ถึงจะเริ่มได้ เพราะฉะนั้นต้องคิดดีๆ ตัดสินใจดีให้ดีก่อนปัดซ้าย หรือปัดขวานะค๊า   Download แอพพลิเคชั่น Tinder ตรงนี้ได้เลยค่าาา       2. Tastebuds             แอพนี้แทบจะต่างจากแอพอื่นโดยสิ้นเชิงค่ะ เพราะแอพนี้เป็นการเลือกคนคุยโดยการใช้เพลง อ่านไม่ผิดค่ะใช้เพลงจริงๆค่ะ จะไม่เหมือนแอพอื่นที่จะดูจากรูปถ่าย หรือข้อมูลส่วนตัวเปนหลัก                      แอพนี้เวลาเราเข้าไปฟังเพลงอะไร แนวที่เราชอบ เราก็จะเจอคนที่ชอบเพลงในสไตล์เดียวกัน เพราะถ้าชอบแนวเพลงเดียวกันแล้ว เรื่องอื่นๆก็คงคล้ายๆกัน ก็สานสัมพันธ์กันไม่ยาก เราเชื่อว่าจะถูกใจคนที่ชอบฟังเพลงได้ไม่น้อยเลยละค่า   Download แอพพลิเคชั่น Tastebuds ตรงนี้ได้เลยค่ะ แอพนี้มีโหลดเฉพาะ Apple Store เท่านั้นจ้าา   3.Badoo             แอพนี้การใช้งานไม่ต่างจากแอพอื่นๆเลยจ้า ปัดซ้ายปัดขวาเหมือนกัน แต่มีจุดเด่นอยู่ที่ แอพจะจัดอันดับให้ user แต่ละคนว่าอยู่ในกลุ่มไหน ประดับโปรไฟล์เราไว้เหมือนเป็นโล่เกียรติยศยังไงยังงั้น แอพจัดลำดับความสำคัญแบบนี้จ้า             - Most Active สำหรับคนที่เข้าใช้งานแอพบ่อยมากๆ วันละหลายๆรอบ           - Checkout สำหรับคนที่เข้ามาแอบส่องโปรไฟล์คนอื่นบ่อยๆ           - Most Friendly สำหรับคนที่อัธยาศัยดี           - Most Picky สำหรับคนที่ไม่ค่อยปัดขวา ปัดซ้ายตลอด ไม เลือกใครสักที           - Profile Completed สำหรับคนที่อัพเดทข้อมูลส่วนตัวครบถ้วน           ที่กล่าวมาถือเป็นจุดเด่นในแอพที่เราสามารถเอามาเป็นตัวช่วยในการการตัดสินใจได้เหมือนกันนะคะ   Download แอพพลิเคชั่น Badoo ตรงนี้ได้เลยค่ะ           4. Bumble           แอพนี้จุดเด่นอยู่ที่เค้าให้สิทธิเลดี้เฟิร์สในการเลือกก่อนเลยค่ะ คือหนุ่มๆต้องรอให้สาวๆทักไปก่อนเท่านั้น โดยการปัดซ้ายขวาเช่นเคย           แต่ๆๆๆ คุณสาวๆ อย่าเพิ่งคิดว่าคุณหนุ่มๆจะเป็นลูกไก่ในกำมือของคุรไปตลอดนะคะ กามเทพของเราเค้าให้เวลาตัดสินใจแค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้นจ้า ถ้าไม่รีบสานสัมพันธ์ เจ้าชายในฝันอาจจะหลุดลอยไปคุยกับสาวคนอื่นแทนนะค๊าาา เรื่องนี้ต้องไว จำไว้ค่ะลู้กกก     Download แอพพลิเคชั่น Bumble ตรงนี้ได้เลยค่ะ         5.Happn             แอพนี้โดดเด่นมากๆ แปลกแหวกแนวมาก คือคนที่จะคุยกันได้ หนึ่งคือใช้แอพพลิเคชั่นนี้เหมือนกัน แต่ที่สำคัญคือคุณต้องเคยเจอกันมาก่อน หรือเคยเดินสวนกันมาแล้วบนโลกใบนี้           คือแอพจะเก็บบันทึกสถิติว่า ใครเคยเจอกัน หรือเจอกันมาแล้ว กี่ครั้ง ที่ไหน  เมื่อไหร่ อารมณ์แบบเดินสวนกันทุกวันแต่ไม่รู้จัก ไม่กล้าคุย ไม่รู้ว่าเค้ามีแฟนแล้วหรือยัง           เราว่าเป็นฟังก์ชั่นที่โอเคมากเลยนะ อารมณ์แบบพรหมลิขิตยังไงยังงั้น น่าใช้มากกกกกเลยทีเดียว แล้วถ้าสนใจเค้าแล้วก็แค่ส่งไอคอนไปให้เค้าก่อน ถ้าเค้าตอบกลับมานั่นคือการสัมพันธ์ก็เริ่มต้นขึ้นแล้วล่ะค่า   Download แอพพลิเคชั่น Happn ตรงนี้ได้เลยค่าาา         นี่คือ 5 แอพหาคู่ที่เราแนะนำในวันนี้ค่ะ  ยังไงลองไปใช้กันดูนะคะ และก็ต้องใช้วิจารณญาณในการเล่นแอพด้วยนะคะ ศึกษากันให้ดีก่อนคบ เพราะว่าคำที่ผู้ใหญ่สอนยังใช้ได้ดีเสมอ จะได้ไม่เสียใจภายหลังนะคะ